หลังจากที่ประเทศจีนเข้มงวดมาตรการควบคุมโรค COVID-19 มาตลอด 3 ปี และแล้ววันที่ดินแดนมังกรจะกลับมาแสดงความยิ่งใหญ่ก็มาถึงอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 รัฐบาลจีนได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมและเริ่มกลับมาเปิดประเทศ เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในปีเถาะนี้ หลังจากที่ในปี 2565 การเติบโตของเศรษฐกิจจีนไม่โตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ในปี 2566 นี้รัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาโตอีกครั้งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายการควบคุมโรค การเปิดประเทศให้สามารถเข้า-ออกประเทศได้ ประชาชนได้ออกมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นการบริโภค มาตรการการเงินการคลัง ที่สำคัญยังได้ปรับเกณฑ์ที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาหุ้นจีนถูกถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และกลับมาให้การสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเทคโนโลยีอีกด้วย
จะเห็นว่าจีนได้เดินหน้าเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจตัวเองแบบดุดันไม่เกรงใจประเทศอื่นกันเลย แล้วที่บริษัทบิ๊กเทคทั้งหลายของประเทศจีนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ก็เพื่อให้กลับมาแสดงศักยภาพเติบโตเป็นแบรนด์ดังในระดับโลก และบริษัทสตาร์ทอัพที่เป็นยูนิคอร์นของจีนก็ได้รับแรงสนับสนุนนี้ไปด้วย
นักลงทุนต่างเห็นสปอตไลต์สาดแสงลงมาที่ดินแดนมังกร ทำให้ตั้งแต่จีนเริ่มเปิดประเทศราคาหุ้นกลุ่มบริษัทเทคก็ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง เช่น Alibaba เพิ่มขึ้น 19% Tencent เพิ่มขึ้น 18% Baidu เพิ่มขึ้น 26% และ NetEase เพิ่มขึ้น 21% (ข้อมูล CNBC ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023*) จากที่ปีก่อนหน้าหุ้นกลุ่มนี้ได้ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ทำให้ในปัจจุบันถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจเข้าทยอยสะสม เพราะแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มบริษัทเทคจะมีความสัมพันธ์กับการเติบโตภาคการบริโภคของจีนนั่นเอง
วันนี้ บลจ.ดาโอ จะมาแนะนำข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวบริษัทบิ๊กเทคของจีนที่เพื่อนๆ หลายคนคงจะคุ้นหูกัน
1. Meituan - บริษัทที่ทำ Super App ได้รวบรวมบริการต่างๆ ไว้ในแอพพลิเคชั่นเดียว ทั้งสินค้า บริการ ส่งอาหาร จองตั๋วหนัง ท่องเที่ยว เป็นแอพพลิเคชั่นที่คนส่วนใหญ่ในประเทศจีนต้องมีติดมือถือไว้
2. Tencent - บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีหลากหลายธุรกิจ เช่น WeChat สื่อโซเชียลมีเดียใหญ่สุดของจีน เกมส์ดังระดับโลกที่คนไทยยังต้องเล่น เช่น RoV, PUBG, Clash of Clan บริการด้านธุรกรรมการเงินออนไลน์ (Fintech) เป็นต้น
3. Pinduoduo - บริษัทพัฒนาแพลต์ฟอร์ม E-commerce ที่กำลังมาแรงที่สุดของจีน มีจุดเด่นตรงที่ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมการช้อปปิ้งในรูปแบบใหม่ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเช็คอินรายวัน มินิเกม คูปองเงินสด ผลิตภัณฑ์ฟรี เป็นต้น
เปิดบัญชีกองทุนออนไลน์
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศ และไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด (บลจ.ดาโอ) หรือตัวแทนการขายและรับซื้อหน่วยลงทุนคืนของ บลจ.ดาโอ
*อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2023/02/07/the-worst-is-over-tech-investors-bullish-on-investing-in-china-again.html?fbclid=IwAR2BnrTBGnaumLqPT1Ij0HYP6E9sjQRc6lLVjfvst44CfnTUZxuLeiIQLNo